Tuesday, November 20, 2012

เทคนิคการปลูกและการดูแลรักษามะยงชิดสวนสมหมาย จ.พิจิตร :

เทคนิคการปลูกและการดูแลรักษามะยงชิดสวนสมหมาย จ.พิจิตร :

การปลูกมะยงชิด พื้นที่ปลูกนับเป็นปัจจัยหลักที่มีความสำคัญมาก เพราะเป็นตัวกำหนดคุณภาพของผลผลิต ให้ออกมาต่างกัน เช่น มะยงชิดที่ปลูกในพื้นที่ดินนาหรือพื้นที่ลุ่มน้ำผลจะใหญ่ผิวมีสีเหลือง แต่เนื้อจะนิ่มออกเละ รสชาติไม่เข้มข้นเพราะดินนาเป็นดินเหนียว เป็นดินที่เก็บความชื้นไว้นาน จึงทำให้ผลผลิตที่ได้มีรสชาติไม่เข้มข้น ส่วนดินลูกรังนั้นจะได้เปรียบเรื่องรสชาติ รสชาติจะเข้มข้นและผิวผลออกสีเหลืองส้มเข้มกว่า

การปลูกและการดูแลรักษามะยงชิดสวนสมหมาย :

การปลูกจะต้องเริ่มต้นจากการกำหนดระยะปลูกให้เหมาะสม ที่แนะนำคือ 8*8 เมตร โดยในช่วงแรกอาจปลูกแซมพืชอื่นไปก่อน กว่าต้นมะยงชิดจะให้ผลผลิตเต็มที่ก็เมื่อมีอายุประมาณ 7-8 ปี และผลผลิตจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามอายุของต้น ซึ่งโดยปกติแล้วชาวสวนจะมีเคล็ดลับและวิธีการดูแลต้นมะยงชิดให้ออกดอกติดผล ต่างกันไป แต่ที่สวนสมหมายจะมีการแต่งกิ่งในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน ตัดแต่งกิ่งที่แห้งตาย กิ่งที่เบียดชิดกันและกิ่งที่อยู่ในร่มเงา ตัดแต่งเสร็จใส่ขี้วัวเก่าต้นละ 2-3 กระสอบปุ๋ย ส่วนปุ๋ยเคมีจะใช้สูตร 8-24-24 อัตราต้นละ 1-2 กิโลกรัม โดยใส่ในช่วงเดือนกรกรกฎาคม – เดือนกันยายน เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับต้นก่อนการออกดอก
** เมื่อถึงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคมและมีอากาศหนาวเย็นติดต่อกัน 7-10 วัน ยอดของมะยงชิดจะพัฒนาเป็นตาดอกและจากระยะดอกจนถึงเก็บผลผลิตจะใช้ระยะเวลา เพียง 85-90 วัน ในแต่ละปีมะยงชิดจะออกดอก 2- 3 รุ่น รุ่นแรก จะออกดอกเดือนพฤศจิกายน เละไปเก็บผลผลิตประมาณปลายเดือนมกราคม รุ่นที่ 2 จะออกดอกช่วงเดือนธันวาคม ไปเก็บผลผลิตเอาช่วงปลายเดือนกุมภาพันธุ์ แต้ถ้าปีไหนอากาศเย็นนานจะมีรุ่นที่สามคือดอกจะออกต้นเดือนมกราคม และไปเก็บผลผลิตเดือนมีนาคม



หลังจากเริ่มแทงช่อดอกจะต้องดูแลเป็นพิเศษ ทางดินควรมีการให้น้ำทุก 5- 7 วัน (ขึ้นอยู่กับความชื้นในสวน การให้น้ำมากไปจะทำให้เนื้อผลมะยงชิดเละ) จนกว่าผลอ่อนจะมีขนาดเท่ากับหัวแม่มือ จึงเริ่มงดการให้น้ำ ใน เรื่องของสารเคมีที่จำเป็นต้องใช้ ในช่วงที่กำลังแทงช่อดอกหรือแตกใบอ่อน เนื่องจากในระยะดังกล่าวจะพบว่ามีศัตรูที่สำคัญคือเพลี้ยไฟและโรคที่สำคัญ คือโรคแอนแทรคโนส ซึ่งที่สวนจะใช้สารเคมีในช่วงนี้มาก เพราะต้องการ ควบคุมคุณภาพของผลผลิตให้ได้และต้องเลือกใช้สารเคมีที่ปลอดภัยตา,มาตรฐาน GAP สารเคมีที่แนะนำให้ฉีดพ่นป้องกันเพลี้ยไฟคือ สารอะบาเม็กติน เช่น แจคเก็ต โดยฉีดพ่น 2 ครั้ง คือ ระยะก่อนดอกยานและระยะหลังดอกโรยในช่วงที่ดอกบาน จะไม่มีการฉีดพ่นสารเคมีใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนโรคแอนแทรคโนส จะใช้สารเคมีกลุ่มโปรคลอราช ฉีดพ่นในช่วงก่อนดอกบาน ส่วนหลังจากดอกโรยจะใช้สารแมนโคเซป เช่น เพนโคเซป และ โปรคลอราชสลับกัน โยจะฉีดพ่นจนกว่าผลจะมีขนาดเท่าหัวแม่มือหรือยู่ในระยะสลัดผลจึงหยุดฉีด ***เป็น ที่น่าสังเกตว่า คุณนคร บัวผัน จะไม่นิยมใช้ปุ๋ยหรือฮอร์โมนเร่งขนาดผลเลย เพราะการใช้ปุ๋ยมากๆ อาจทำให้เนื้อของมะยงชิดดเละและไม่แน่น

การเก็บเกี่ยวผลผลิตมะยงชิดพันธุ์ดี : จะ ต่างกันไปแล้วแต่ความต้องการของตลาดถ้าเป็นตลาดในประเทศจะเก็บที่ความแก่ เกือบ 100% คือ เก็บไปแล้วรับประทานได้เลย โดยสังเกตจากผิวเปลือก จะต้องออกเหลืองส้มเกือบทั้งผล รสชาติจะหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย แต่ถ้าเก็บส่งตลาดต่างประเทศจะต้องเก็บเกี่ยวที่ความแก่ประมาณ 90% คือ ผิวจะออกสีจำปา แต่ยังไม่ทันแดง เพราะการส่งตลาดต่างประเทศใช้ระยะเวลานานต้องผ่านหลายขั้นตอน ตัวอย่างของประเทศในเขตยุโรป ต้องใช้ระยะเวลาในการผ่านกระบวนการต่างๆ ประมาณ 7 วัน ถ้าเก็บที่ความแก่เต็มที่ เมื่อถึงปลายทางเนื้อจะเละวางขายได้ไม่นาน

คุณภาพของผลผลิต คือ หัวใจในการผลิตมะยงชิดพันธุ์ดี : ที่สวนสมหมายจะเน้นทุกขั้นตอนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องการเก็บผลผลิต จะใช้กรรไกรตัดผลหรือใช้มือเก็บเท่านั้น ผู้ที่เก็บจะต้องมีความชำนาญและประณีต ต้องดูลักษณะผลว่าเป็นผลแก่หรือผลอ่อน ต้องทำงานด้วยความระมัดระวัง เพราะถ้าเก็บแรงผลจะช้ำก่อนถึงมือผู้บริโภคผลจะเละ เรื่องการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่หลายสวยใช้ตะกร้อสำหรับสอยมะม่วงมาเก็บผล มะยงชิด จะทำให้ได้ผลที่ช้ำสีผิวไม่สวย เวลาขายจะขายไม่ได้ราคา เพราะผลมีตำหนิ
อนาคตการตลาด เมื่อสอบถามถึงเรื่องการ ตลาดในอนาคตคุณนคร ตอบด้วยความมั่นใจว่า แม้จะมีผู้ขยายพื้นที่ปลูกมากขึ้นแต่ตลาดก็ยังดี เพราะมะยงชิด เป็นไม้ผลที่บังคับให้ออกดอกนอกฤดูไม่ได้ต้องอาศัยธรรมชาติเท่านั้น ซึ่งโดยปกติแล้วมะยงชิดจะเริ่มออกสู่ตลาดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พอหมดก็จะเลื่อนมาที่ปราจีนบุรี นครนายก เข้าสู่ เขตภาคกลาง ต่อจากภาคเหนือตอนล่าง คือ พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัย กำแพงเพชร และ สุดท้ายที่เชียงใหม่ ผลผลิตจะถูกควบคุมโดยธรรมชาติผลผลิตจะออกไม่พร้อมกัน
ราคามะยงชิดพันธุ์ดีที่สวนสมหมายจะตั้งราคาไว้มาตรฐานเหมือนกันทุกปี จะไม่ต่างกันมากนักโดยคัดเป็นเบอร์ดังนี้
- เบอร์ 1 ขนาดผล 13 -15 ผล ต่อ กิโลกรัม ขายส่งเฉลี่ยกิโลกรัมละ 80 – 100 บาท
- เบอร์ 2 ขนาดผล 16- 17 ผล ต่อกิโลกรัม ขายส่งเฉลี่ยกิโลกรัมละ 60 – 70 บาท
- เบอร์ 3 ขนาดผล 18 ผล ต่อ กิโลกรัม ขายส่งกิโลกรัมละ 30 -40 บาท
- ผลเล็กหรือตกเกรด ขายรวมกิโลกรัมละ 20 บาท

ด้านตลาดต่างประเทศจะใช้มะยงชิดเกรด1 แต่จะต้องคัดผลที่ผิวสวยจริงๆ ขายได้กิโลกรัมละ 150 บาท แต่การเก็บส่งออกต้องมีความประณีตมาก นอกจากนั้นยังมีตลาดบน คือ ส่งขายตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เช่น TOPs Supermaket จะบรรจุกล่องจากสวนส่งขายในลักษณะสั่งซื้อพิเศษ ซึ่งสวนสมหมายจะคัดผลบรรจุกล่องสวยงามขายเป็นของฝากให้ผู้สนใจในราคากล่องละ 150 บาท (น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม) ผู้ใดสนใจติดต่อโดยตรงที่เบอร์ คุณนคร บัวผัน โทร.086-2067205
คุณนครยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า “ผมว่ามะยงชิดไข่ไก่เป็นไม้ผลที่มีอนาคต เพราะใช้ทุนในการผลิตต่ำที่สำคัญผมคิดตามแนวทางของพ่อสมหมายที่สอนไว้ว่าถ้า เราขายมะยงชิดไข่ไก่ได้แค่กิโลกรัมละ 10-15 บาท ก็พอใจแล้วไม่ต้องคิดว่าจะบายได้กิโลกรัมละ 80 บาท หรือ 100 บาท เพราะถ้าพึงวันที่ราคามะยงชิดไข่ไก่ตกลงมาเหลือ 10 หรือ 15 บาท เราก็ยังขายผลผลิตได้ง่ายกว่ามะยงชิดพื้นบ้านที่มีผลขนาดเล็กกว่า

1 comment:

  1. Casino.com Hotel and Casino - Mapyro
    Find Casino.com Hotel and Casino, Las 제천 출장안마 Vegas. 제주도 출장샵 Mapyro's location maps, reviews, MGM 동두천 출장샵 Grand and Mirage. 경상북도 출장안마 Mapyro's reviews and information on 하남 출장마사지 MGM Grand

    ReplyDelete